วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าจากวันวาน

จากอดีต สู่ปัจจุบัน คุณธรรมคำสอนไม่เคยเปลี่ยนแปลง

 
     เริ่มเข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี 2538 แต่ก่อนหน้านั้นไม่รู้จักวัดนี้เลย มีโอกาสมาวัดเพราะแม่และพี่สาวพาเข้าวัด มาแล้วก็ไม่ได้เข้าใจเรื่องทำบุญอะไรมากมาย สมาธิก็ไม่ค่อยได้นั่ง เป็นอยู่อย่างนี้อยู่นับเดือน ตอนมาวัดในสมัยนั้น มาฟังธรรมอยู่ที่สภาจาก พระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย มานำเทศน์สอนญาติโยม ภายในวัดมีความเป็นอยู่ร่มรื่น มาวัดแล้วรู้สึกมีความสุข ปกติก็มาร่วมงานบุญเฉพาะอาทิตย์ต้นเดือน ซึ่งมีบุญใหญ่คือการได้บูชาข้าวพระ สาธุชนมากันมากมาย จนล้นจากสภาจาก มีที่รองรับสาธุชนไม่เพียงพอ ยิ่งถ้างานบุญใหญ่ หรืออาทิตย์ต้นเดือน แทบจะไม่มีที่นั่ง แต่แม้จะผู้คนมากมาย ก็ไม่เคยมีการกระทบกระทั่งกันเลย ทุกคนมีความตั้งใจที่อยู่ร่วมงานบุญ เพราะมีความสุขที่ได้มาวัด และกิจกรรมงานบุญต่างๆ ก็มีจัดระบบระเบียบ มีขั้นตอน สามารถดำเนินกิจกรรมงานบุญได้อย่างเรียบร้อย
   
    มีโครงการปฏิบัติธรรม ที่สามารถมาอยู่ปฏิบัติธรรมโดยถือศีล 8   ทางวัดจะให้รับประทานอาหาร น้ำปานะ โดยมีพระอาจารย์มาลงเทศน์สอน การสอนธรรมะ ก็สอนตามหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คนตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา โดยมีคุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง ท่านก็เมตตา มาพูดคุยกับญาติโยม ด้วยจิตที่มีเมตตา อยากคนมาวัดได้รู้จักสร้างบุญ และท่านเน้นเรื่องหลักการทำความสะอาด แม้แต่ในเรื่องห้องน้ำ ท่านก็ไม่ละเลย ให้คนมาวัดแล้วรักวัด เป็นเจ้าของวัด ต้องลงมือทำความสะอาดด้วยตนเอง เรียกว่า "ใครมาวัดพระธรรมกาย ต้องล้างห้องน้ำเป็น" เปรียบเหมือนเราได้ขัดเกลาจิตใจเรา



    
       แต่พอได้มีโอกาสช่วยงานบุญ อาสาสมัครช่วยงานวัด ก็เริ่มรู้สึกว่า การมาวัดไม่ใช่ แค่มาเอาเงินมาทำบุญอย่างเดียว แต่มีอะไรมากมาย ที่่เราสามารถได้บุญอีกมากมาย และเมื่อพระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโยได้เปิดโรงเรียนอนุบาลผันในผันวิทยา ในปี 2545 ยิ่งได้ทำให้รู้เรื่องราวของกฎแห่งกรรมมากมาย เลยทำให้เริ่มรักวัดมากขึ้น เพราะอยากศึกษาเรียนรู้ในชีวิตในสังสารวัฎ 
      โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มีวัตถุประสงค๋ คือ มุ่งหวังให้เป็นรายการศึกษาธรรมะทางไกลผ่านสื่อดาวเทียม เพื่อเป็นธรรมทาน และมุ่งปลูกฝังประชาชนทุกเพศ ทุกวัย และทุกระดับการศึกษาให้มีสัมมาทิฏฐิ มีความตระหนักและเชื่อในผลของบุญและบาป ตลอดจนมีความเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม
         มีเรื่องราวหลากหลาย ที่สามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์ เกี่ยวกับเหตุและผลของการกระทำ ซึ่งการกระทำแต่ละกรณีหรือบางกรณี แรกๆ อาจจะมองเผินๆ ตามความคิดแบบทางโลกว่า การกระทำดังกล่าวก็พบเห็นกันทั่วไปในสังคม ไม่น่าจะเป็นเรื่องผิดเพราะกฎหมายบ้านเมืองก็ไม่ได้ระบุโทษแต่อย่างใด แต่ทว่าในทางธรรมนั้นสอนไว้ว่า ผู้กระทำสิ่งใดจะต้องได้รับผลของการกระทำนั้น ทั้งนี้เพราะผู้กระทำจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลของการกระทำของตนเสมอ
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น